ปิดฉากสมกับที่ได้ตัวพระเอกซีรีส์ภาคต่ออย่าง “อีเจฮุน” มาเป็นคนนำทีมนักเจรจาระดับตำนานในบทบาทของ “ยุนจูโน” ถึงแม้ว่าตลอดระยะเวลาการออกอากาศทั้ง 12 ตอน ของซีรีส์ The Art of Negotiation ยอดอัจฉริยะนักเจรจา จะมีผู้ชมบางส่วนยังไม่เข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดอยู่บ้าง เพราะซีรีส์เต็มไปด้วยศัพท์เทคนิค และบทพูดที่เยอะมาก ในแต่ละครั้งที่เกิดการเจรจาดีลธุรกิจขึ้น แต่อย่างนึงที่ซีรีส์ทำได้ดีมาก คือ การทำให้ผู้ชมตามลุ้นไปกับทีมเจรจาของ “ยุนจูโน” ว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ในแต่ละดีล
แต่หากถามว่าอะไรทำให้ The Art of Negotiation น่าสนใจ ถึงแม้จะเต็มไปด้วยภาษาวิชาการ หรือบทสนทนาที่ยืดยาวเนื่องจากเป็นซีรีส์ธุรกิจแนวเจรจาเชิงกลยุทธ์ จุดเด่นนั้น คือ การที่ซีรีส์ใช้คาแรคเตอร์ที่ดูลึกลับ และมีปมเบื้องหลังตลอดเวลสของ ยุนจูโน มาเป็นแกนกลางของเรื่อง ซึ่งการหยิบจุดนี้มาใช้งาน ทำให้ผู้ชมต้องคอยตามลุ้นบทสรุปเจ้าของฉายา “งูขาว” แห่งวงการ M&A คนนี้ว่าจะมีบทสรุปอย่างไร
อำนาจ VS เหตุผล
เพราะซีรีส์ The Art of Negotiation เลือกหยิบวิกฤติของ “ชานอินกรุ๊ป” มาเป็นตัวเปิดเรื่อง ทำให้เกิดช่องว่างในการดึงตัว “ยุนจูโน” กลับมากู้สถานการณ์อันเปราะบางของบริษัท ที่เป็นหนี้สูงถึง 11 ล้านล้านวอน ฟังดูนี่ไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเลย ที่บริษัทนึงจะสามารถชำระคืนหนี้ทั้งหมดได้ ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน นี่คือจุดเริ่มต้นของหัวข้อการถกเถียงกันในที่ประชุมก่อนการเดินทางมาถึงของชายหนุ่มเจ้าของฉายา “งูขาว” ว่าจริง ๆ แล้วบริษัทควรเลือกรักษาอะไรไว้มากกว่ากันระหว่างบริษัทก่อสร้างที่แบกภาระทำกำไรสูงที่สุดของกรุ๊ป หรือบริษัทขนาดกลาง ที่ตลอดทั้งปีทำกำไรเทียบกับบริษัทก่อสร้างไม่ได้เลย
ซึ่งถ้าพูดในมุมมองของอำนาจ คำพูดของ ฮาจอนมู ในฐานะ CFO ขององค์กร น่าจะเป็นอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์มากพอ ให้ทุกอย่างจบลงโดยไม่มีข้อโต้แย้ง แต่การฉากเปิดตัวครั้งแรกของ ยุนจูโน ทำเอาอึ้งกันทั้งห้องประชุม เพราะคำประกาศแรกของเขาในฐานะหัวหน้าทีม M&A ของชานอินกรุ๊ป คือ ประกาศว่าจะขายซานอินก่อสร้างทิ้ง แล้วเก็บบริษัทที่เหลือไว้ ฟังดูครั้งแรกเหมือนจะน่าสงสัยว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น เพราะในมุมมองของคนทั่วไป ข้อเสนอของ CFO น่าจะสมเหตุผลแล้ว แต่คำอธิบายของ ยุนจูโน กลับมีน้ำหนักมากกว่า เพราะเขาพูดโดยการใช้ผลประโยชน์ของบริษัทมารองรับ ไม่ใช้อารมณ์ ความรู้สึกมาเกี่ยวเลย นี่คือการเลือกใช้ซีนเปิดตัวที่ฉลาดมาก เพราะมันทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงความสุขุมของ ยุนจูโน เวลาที่ต้องเผชิญหน้ากบสถานการณ์ที่ต้องต่อรองกับผู้ที่มีอำนาจมากกว่าตัวเอง
“ยุนจูโน” กับเส้นทางการชดใช้หนี้ให้ “อินซานกรุ๊ป”
เพราะหนี้ 11 ล้านล้านวอน คือ ตัวเลขที่ ยุนจูโน ต้องทำให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม เส้นทางการหาเงินมาจ่ายหนี้ให้ “ซานอินกรุ๊ป” ของยุนจูโน และทีมงาน สำหรับคนที่ติดตาม The Art of Negotiation มาตั้งแต่ EP แรก น่าจะเห็นรุปแบบการเล่าเรื่องของซีรีส์ชุดนี้ที่เล่าเส้นทางการควบรวมกิจการของทีมยุนจูโนแบบตามเก็บเควส ไล่ไปทีละธุรกิจ โดยแต่ละธุรกิจจะเป็นเหมือนตัวเชื่อมไปสู่แผนการที่เขาวางแผนไว้
ไล่ไปตั้งแต่การขายกิจการก่อสร้างกับตัวเลขที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ การดีลของเขา จึงต้องใช้งานความสามารถของทุกคนในทีมอย่างคุ้มค่า เพื่อให้มั่นใจว่า นี่คือการปิดดีลที่ดีที่สุดเท่าที่เขาสามารถทำได้ เพราะสุดท้ายแล้ว เป้าหมายของ ยุนจูโน ในซีรีส์ The Art of Negotiation ไม่ใช่แค่ทำให้ซานอินกรุ๊ปไม่ล้มละลาย แต่ต้องทำให้ตัวเองมีค่าพอ ที่จะทำให้ท่านประธานใหญ่ต้องกันมาจับตามองเขาอย่างสนใจ ในฐานะบุคลากรที่จะกลายมาเป็นผู้นำในอนาคตของซานอินกรุ๊ป
การปีนเขากิจกรรมเข้าสังคมของคนเกาหลี
ถ้าในประเทศไทยกีฬากอล์ฟ คือ การเข้าสังคมของนักธุรกิจ ในประเทศเกาหลี “การปีนเขา” ก็คงเป็นกิจกรรมประเภทเดียวกัน ที่ถุกหยิบมาใช้สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ที่คนเกาหลีมีต่อวัฒนธรรมการปีนเขา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยในซีรีส์ The Art of Negotiation เราจะเห็นว่า ทุกครั้งที่ท่านประธานใหญ่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ หรืออยากคุยกับใครเป็นการส่วนตัวเพื่อรับฟังแนวคิด และมุมมองของคน ๆ นั้น ท่านประธานจะเอ่ยปากชวนให้ไปปีนเขากัน
สำหรับ “ยุนจูโน” เองก็เคยถูกชวนไปปีนเขาเช่นกัน ตอนที่ท่านประธานเล็งตัวเขาให้มาเป็นคณะกรรมการบริหาร มีจังหวะหนึ่งที่ท่านประธานยอมรับว่า เขาดูยุนจูโนไม่ออกเลย ว่าเป็นคนยังไง ภายใตสีหน้าที่เรียบเฉย และสุขุมที่ถูกคิดมาแล้วอย่างดี ส่วนยุนจูโนเองก็ได้ใช้โอกาสนี้ในการศึกษาพฤติกรรม และวิธีการตัดสินใจของท่านประธานใหญ่เหมือนกัน ยกตัวอย่างในซีรีส์ The Art of Negotiation เคสที่เขานำเรื่องแนวคิดการกลับมาเปิดธุรกิจก่อสร้างอีกครั้ง ของท่านประธานไปบอก CEO ที่ซื้อกิจการซานอินก่อสร้างในช่วงต้นของซีรีส์ เขาเลยวางแผนให้ประธานสองคนไปพบกันโดยบังเอิญระหว่างปีนเขา ท่านประธานที่ได้พบ ได้พูดคุยกับตัวจริงของคนที่ตัวเองกำลังจะแทงข้างหลัง อาจจะเปลี่ยนใจ ไม่ทำตามแผนการที่ CFP ของบริษัทวางไว้ให้ ซึ่งผลสุดท้ายมันก็เป็นไปอย่างที่เขาคิดไว้จริง ๆ
ภารกิจที่แท้จริงของ “ยุนจูโน”
อย่างที่บอกไว้ว่าซีรีส์ The Art of Negotiation วางคาแรคเตอร์ของ “ยุนจูโน” ให้ดูลึกลับ เพราะตัวละครนี้ไม่ได้มีเจตนาแค่เข้ามาทำหน้าที่ควบรวมกิจการเท่านั้น แต่เบื้องหลังใบหน้าที่เย็นชา และแววตาที่เหมือนวิเคราะห์เรื่องต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา มีแผนการแท้จริงอีกหนึ่งอย่างที่เขาซ่อนไว้จากสายตาของทุกคนมาโดยตลอด นั่นคือการหาตัวคนผิดที่ทำให้พี่ชายของเขาตัดสินใจฆ่าตัวตายมาลงโทษ
เหตุการณ์ในช่วงท้ายของซีรีส์จึงไม่ใช่การเจรจาธุรกิจอีกต่อไป แต่พลิกบทบาทกลับมาเป็นการเปิดโต๊ะกรรมการบริหาร สอบสวน “ยุนจูโน” แทนโทษฐานใช้ข้อมูลภายในของบริษัทปั่นราคาหุ้นจัมโบ้เภสัช เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนการที่กรรมการฮา วางแผนเอาไว้หมดแล้ว เพื่อให้ตัวเองพ้นผิด แต่สิ่งที่กรรมการฮาพลาดไป คือ เขาไม่รู้เลยว่า ยุนจูโน เตรียมตัวมาเพื่อการเดิมพันครั้งสุดท้ายมานานขนาดไหน
ฉากช่วงท้ายที่ซีรีส์พาเราไปพบกับอดีตที่ถูกปิดไว้ของ ยุนจูโน และครอบครัว สมัยที่เขายังทำงานร่วมกับกรรมการฮา ทำให้เราได้เห็นว่า แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงเวลานั้น และใครคือคนปั่นหุ้นตัวจริง ที่ได้ผลประโยชน์ไปจากหุ้นจัมโบ้เภสัชไป ถือว่าเป็นการคลี่คลายปมในซีซั่นนี้ได้ดีมาก เมื่อผลสุดท้ายแล้ว คนที่ถูกเปลี่ยนที่นั่งจากผู้สอบสวน กลายมาเป็นผู้ต้องหา คือ กรรมการฮา คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถือครองหุ้นจัมโบ้เภสัชมาโดยตลอด และด้วยผลจากการใช้ตำแหน่งของตัวเองหาผลประโยชน์ในครั้งนี้ ทำให้กรรมการฮาหลุดจากตำแหน่งเบอร์ 2 ของซานอินกรุ๊ป แต่ในตอนท้ายซีรีส์ก็มีเซอร์ไพรส์ส่งท้ายให้คนที่รอลุ้นการมาถึงของซีซั่น 2 เพราะคนที่กลายเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ของบริษัทซาโมแอล กลับกลายเป็นกรรมการฮา ที่เพิ่งถูกปลดออกจากตำแหน่งในซานอินกรุ๊ปไป
โดยสรุปแล้ว The Art of Negotiation ถือว่าเป็นซีรีส์แนวธุรกิจที่เข้มข้น และน่าติดตามมาก ถึงการเดินเรื่องจะมีความช้าอยู่บ้าง เพราะซีรีส์เน้นฉากการเจรจาธุรกิจเป็นหลัก แต่ก็ถุกชดเชยด้วยทีม M&A ที่เก่งกันแบบรอบด้าน คอยซัพพอร์ตให้แผนการของ “ยุนจูโน” สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่พล็อตวางแผนมาอย่างดีไม่แพ้ซีรีส์เรื่องไหนเลยในปี 2025 ใครที่เป็นแฟนคลับของ “อีเจฮุน” ติดตามชมซีรีส์ The Art of Negotiation ได้แล้วครบทั้ง 12 ตอนที่ Viu เท่านั้น
